การจะทำให้บ้านสวยมีความสมบูรณ์แบบไม่ได้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัยเรื่องของการตกแต่งเข้ามาเป็นตัวเสริมด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้ภายในบ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้น อย่างไอเดียที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศกันสักหน่อยด้วยการพาไปชมบ้านสไตล์ชนบทฝรั่ง ซึ่งบ้านสไตล์นี้สำหรับคนไทยเองอาจจะยังไม่คุ้นหูมากนัก แต่เราสามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับวิถีชีวิตของบ้านเราได้ไม่ยาก
เรียกว่าบ้านแบบนี้เกิดขึ้นจากแนวความคิดที่รู้สึกหลงใหลในความงามของวัสดุต่างๆ ที่ผ่านกาลเวลามา หรือก็คือของเก่าที่สืบทอดจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งนั่นเอง หลายคนหลงรักการตกแต่งสไตล์นี้ เพราะเหมือนเราได้เชื่อมต่อช่วงเวลาจากอดีตสู่ปัจจุบัน
เอาเป็นว่าอย่ารอช้า เราเข้าไปเยี่ยมชมบ้านหลังนี้กันเลยดีกว่า รับรองว่าสวยงามเห็นแล้วประทับใจจริงๆ
บ้านหลังนี้มีเนื้อที่ขนาดใหญ่ จึงได้เปรียบทางด้านความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน จากภายนอกจะเห็นว่ามีพื้นที่สวนค่อนข้างกว้าง มีทางเดินทอดยาวเข้าสู่ตัวบ้าน สร้างความรู้สึกโอ่อ่าให้กับบ้านได้มากทีเดียว ยิ่งใช้สีทาภายนอกสีส้มก็ดูตัดกับหญ้าสีเขียวขจี ดูโดดเด่นสะกดสายตาไม่น้อย
หลังจากเห็นหน้าบ้านกันไปแล้ว เราเข้ามาดูบรรยากาศภายในบ้านกันบ้างดีกว่า สวยงามมากเลยใช่มั้ยล่ะคะ เพราะมีสถาปนิกภายในจากบริษัท GISLENE LOPES ARQUITETURA E DESIGN DE INTERIORES มาดูแลรับผิดชอบงานตกแต่งภายในให้ ซึ่งมีการเชื่อมต่อพื้นที่ใช้งานระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารรวมเป็นสเปซเดียวกัน ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างคล่องตัว
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สำหรับกินอาหารนั้นมีความคลาสสิคด้วยรูปแบบและงานดีไซน์ สะท้อนให้เห็นถึงความเก่าที่เดินทางผ่านมาแล้วหลายยุคหลายสมัย รวมถึงของตกแต่งชิ้นอื่นๆ ก็เลือกให้มีความสอดผสานเป็นแนวเดียวกัน
ข้อสำคัญของแต่งสไตล์ชนบทฝรั่ง คือ การทำให้บรรยากาศมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด การหยิบนำวัสดุจากไม้ รูปฟอร์มเฟอร์นิเจอร์ ลวดลายที่ดูโบราณหน่อยๆ เป็นสิ่งที่นิยมนำมาใช้ในการตกแต่งแบบนี้ ดูบรรยากาศภายในห้องนอนนี้สิว่ามองไปมุมไหนก็เกิดความโดดเด่น
นอกจากการจัดสรรฟังก์ชันภายในห้องน้ำให้ใช้งานอย่างเป็นสัดเป็นส่วนแล้ว การผสมผสานวัสดุที่หลากหลายทั้งลวดลายกระเบื้อง ผนังเรียบทาสี ก็ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติได้เหมือนกัน สีที่นิยมใช้ได้แก่ สีน้ำตาลเปลือกไม้ สีเทาของหิน สีน้ำตาลอ่อนจากดิน รวมไปถึงสีสันต่างๆ
ในส่วนของการทำบิลท์อินตู้เสื้อผ้านั้นเลือกใช้วัสดุไม้ธรรมชาติเข้ามาเป็นองค์ประกอบหลัก แต่ปรับมือจับให้ดูทันสมัยขึ้น เพื่อไม่ให้ดูเชยหรือล้าสมัยเกินไป ทำให้ห้องมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ดูมีเรื่องราวในการออกแบบและที่สำคัญที่สุดคือมีความสวยงาม
สีหลักของห้องทำงานใช้สีขาวเพื่อให้เกิดความรู้สึกสบายตา และยังง่ายต่อการแต่งเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเข้าไป สิ่งที่ทำให้ห้องนี้ดูแปลกตาและน่าสนใจอยู่ที่ โต๊ะ เก้าอี้ และงานไม้ที่ดูเป็นธรรมชาติที่มาพร้อมกับรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ที่ดูมีส่วนเว้า ส่วนโค้ง เข้ากันได้อย่างลงตัวกับของตกแต่งชิ้นเล็กๆ
บริเวณชั้นสองยังมีมุมนั่งเล่นซึ่งเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนในครอบครัวโดยเฉพาะ เปิดโล่งด้วยประตูบานใหญ่เพื่อให้มองเห็นต้นไม้เขียวขจีด้านนอก ส่วนที่นั่งเลือกโซฟาหนังสีน้ำตาลผสมผสานกับเก้าอี้อาร์มแชร์ เก้าอี้สตูลแบบอื่นๆ เพื่อให้ห้องดูไม่น่าเบื่อจนเกินไป
ถัดไปตรงผนังอีกฝั่งหนึ่งภายในห้องนั่งเล่น มีการบิลท์อินตู้ขนาดใหญ่ ไว้สำหรับวางทีวีและเป็นชั้นโชว์ของสะสมหรือของตกแต่งสวยงาม
บรรยากาศภายในห้องนอนห้องนี้ตกแต่งให้ดูสัมพันธ์กับธรรมชาติ เน้นสีแนวเอิร์ธโทนเป็นหลัก ทั้งยังมีการนำวัสดุจำพวกหวาย และไม้เข้ามา เสริมด้วยอาร์มแชร์สีเทาดูสวยงาม เรียกว่าองค์ประกอบทั้งหมดนี้สร้างความผ่อนคลายให้กับเจ้าของห้องได้มากทีเดียว
นี่เป็นอีกหนึ่งไอเดียสำหรับการออกแบบตู้เสื้อผ้าที่กินพื้นที่ไม่เยอะ แต่เก็บเสื้อผ้าได้มากทีเดียว ทำหน้าบานตู้เป็นกระจกเงาประหยัดพื้นที่ได้มาก ส่วนวิธีการเปิดก็ทำเป็นบานเลื่อน แบ่งชั้นภายในตู้ด้วยชั้นไม้และแบบก่อปูนซีเมนต์ ถึงแม้ภาพรวมของดีไซน์จะดูดิบๆ แต่ก็ดูเท่ไม่หยอก
บรรยากาศห้องนอนห้องนี้ดูหวานละมุนกว่าห้องอื่นๆ นั่นเพราะความชอบของเจ้าของห้องนั่นเอง แต่ก็ไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์ของบ้าน จึงนำของเก่าอย่างหีบมาดัดแปลงเป็นโต๊ะหัวเตียง แล้วนำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ที่มีโทนสีใกล้เคียงมาจับคู่อยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน
ความสวยงามภายในห้องน้ำห้องนี้อยู่ที่ของตกแต่ง อย่างกระจกเงาที่ติดอยู่ตรงผนังก็มีรูปทรงกลม สร้างความแปลกตาได้ไม่น้อย ส่วนอ่างล้างหน้าก็ออกแบบเป็นเคาน์เตอร์ทอปหินแบบง่ายๆ เพิ่มชั้นสำหรับเก็บของใต้เคาน์เตอร์ก็ไม่เสียพื้นที่ใช้งานแล้ว
บริเวณอ่างล้างหน้าสำหรับห้องน้ำห้องนี้ถูกใช้งานเต็มพื้นที่ ใช้กระจกเงาบานใหญ่ และทำเคาน์เตอร์ด้วยหินแกรนิตสีเทาขนาดยาว แล้ววางอ่างล้างหน้าแบบรีเข้าไป ส่วนด้านล่างทำเป็นชั้นเก็บของที่สามารถเลื่อนเข้าเลื่อนออก เพื่อสะดวกในการใช้งาน
บริเวณนอกชานออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อน มีทั้งเก้าอี้อาร์มแชร์ เตียงนอน เอาไว้สูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก หรือจะใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมระหว่างคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงก็ได้
จากส่วนนอกชานที่เห็นเมื่อกี้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่นที่ถูกกำหนดให้เป็นห้องนั่งเล่นเอาท์ดอร์ ความสนุกของพื้นที่นี้จึงอยู่ตรงที่สีสันของเฟอร์นิเจอร์ ลวดลายของเนื้อผ้าบนโซฟา และตู้ผนังสีเขียว
อีกหนึ่งเคล็ดลับในการเลือกของตกแต่งก็คือ การนำของเก่าไม่ใช้มาเพิ่มคุณค่าให้กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง อย่างประตูบานไม้นี้ สวยงามจากเนื้อแท้ของไม้อย่างแท้จริง ยังดูเข้ากับผนังอิฐก่อโชว์แนวแบบนี้มากทีเดียว